เราเป็นคนนึงค่ะที่อยู่ในกลุ่มผู้มีบุตรยาก พยายามมาเกือบ 3 ปีแล้วค่ะ แต่ก็ไม่สำเร็จเลยต้องพึ่งพาคุณหมอค่ะ
ครั้งแรกที่ทำก็ทำกับที่ นวบุตรค่ะ แต่กับอาจารย์หมออีกคน (คนนี้ดังมากค่ะ ออกทีวีบ่อยๆ ตำแหน่งสูงในรพ.จุฬาค่ะ) แล้วรู้สึกเลยค่ะ ว่าแกไม่มีเวลาลงรายละเอียด เพราะคนไข้แกเยอะ เคยรอแก เกือบ 3 ชม. แล้วแกก็รีบๆ บวกกับแกพูดน้อยค่ะ เลยตัดสินใจเปลี่ยนหมอค่ะ โดยหลังจากที่ทำครั้งแรกไม่ติดก็เลยไปลองฉีดสีดูค่ะ (อันนี้คิดเองนะค่ะ ไม่มีคุณหมอท่านไหน recommend ให้ทำ คิดเองทำเองค่ะ ) สรุป เราท่อนำไข่ตันไป 1 ข้างค่ะ ซึ่งคุณหมอบอกว่าการที่ท่อนำไข่ตัน โอกาสท้องเองได้เหลือแค่ 30 % ค่ะ เพราะการทำงานของมดลูกจะไม่ 100% โดยเราเลยเริ่มทำครั้งที่ 2ค่ะ เลยเปลี่ยนมาที่ คุณหมอทรงเกียรติ แกดังใน internet ในเรื่องความใจเย็น และละเอียดค่ะ ซึ่งก็จริงค่ะ พอตรวจเลือดคุณหมอบอกเลยว่ามีค่าเลือดบางค่าผิดปกติ คุณหมอจึงให้กลับไปทานยา อีก 2 เดือนค่ะ แล้วค่อยเริ่มค่ะ (แอบเคืองอยู่ในใจว่าทำไมคุณหมอท่านแรกไม่เห็นเจอเรื่องนี้เลย) พอทานยาไปซัก 2 เดือน ค่าเลือด ok แล้วค่ะคราวนี้มาเริ่ม กันหละ เราไปรับยามาฉีดเองค่ะ เรื่องเข็มนี่ จิ๊บๆกับเราค่ะ เราฉีดได้ 4 วันหมอนัดไป อัลตร้าซาวน์ค่ะ หมอบอกว่าไข่มี 5 ใบ (เยอะกว่าครั้งที่ 1 มากค่ะ ครั้งที่ 1 3 ใบค่ะ ) แต่ขนาด เล็กใหญ่ไม่เท่ากันค่ะ คุณหมอเลยขอยกเลิกการทำครั้งนี้ค่ะ เพราะ คุณหมอบอกว่า ไข่ใบใหญ่จะตกแล้วส่วนใบอื่นๆยังไม่ตก สุดท้ายจะได้ไข่ไม่กี่ใบไม่คุ้มค่ะ เราเลยต้องหยุดค่ะ หมอเลยให้ยาคุมกำเนิด ตัวนึง มาทานค่ะ แอบไป search ใน Google เค้าว่ายาคุมตัวนี้จะช่วยควบคุม ฮอร์โมนให้มดลูกหลุดลอกออกมาในปริมาณที่เท่ากันค่ะ และไข่ก็จะโตเสมอกันค่ะ
หลักจากนั้นเราก็ กลับมาหลักจากนั้น 2 เดือนค่ะ ซึ่งครั้งนี้ ได้ทำแล้วค่ะ แต่ไม่ติดค่ะ แต่เราก็กำลังจะทำอีกครั้งที่3 ค่ะ เพราะไว้ใจคุณหมอทรงเกียรติค่ะ เกริ่นมาซะยาว มาเข้าเรื่องราวที่เราจะเขียนนะค่ะ พอดีเพื่อนที่สนิทกัน กังวลเรื่องการมีลูกค้า เลยให้ช่วยเขียนอธิบายขั้นตอนการทำ IVF เพราะตัวเพื่อนและสามีไม่เข้าใจนะค่ะ เราเลยว่าเอามาลง Blog ดีกว่า เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆบ้างค่ะ ขอย้ำอีกทีนะค่ะว่า แต่ละคนขั้นตอนไม่เหมือนกับขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนค่ะ
1. ขั้นตอนการทำในแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับร่างการด้วย เช่น ก่อนการฉีดฮอร์โมน สำหรับคนไข้บางคน หมอจะต้องให้ยาสำหรับพ่นจมูกทุกๆ 6 ชั่วโมง (ถ้าจำไม่ผิด) อันนี้ตัวเองไม่ได้ทำนะค่ะเพราะหมอไม่ได้ให้ทำ ยาตัวนี้สำหรับพ่นไม่ให้ไข่ตกก่อนกำหนด (ไข่ตั้งต้น)
2. วันที่2 ของประจำเดือน ที่ต้องไปตรวจเลือดนั้น หมอจะตรวจค่าเลือดต่างๆว่า สามารถทำได้เลยหรือไม่ ถ้าผลออกมาไม่ดีหมอจะมียามาให้กินก่อน โดย หมอจะมีการตรวจภายใน (อัลตราซาวน์ด้วย) ไม่ได้อยากทำก็ทำได้เลย บางคนต้องกินยาอีก 3 เดือนถึงจะสามารถทำได้ แต่ในขั้นนี้ถ้าสามารถทำได้หมอจะถามว่าจะเอายาฉีดกลับไปเลยไหม ถ้าฉีดเองได้ก็สามารถเอากลับไปฉีดใน. วันที่ 3 ได้เลย โดย ยาที่จะได้ไปจะต้องแช่ในตู้เย็น แต่ แช่ในช่องธรรมดาห้ามแช่ในช่องที่เย็นสุดค่ะ
3. การฉีดยา สำหรับ นวบุตรเค้าจะให้ฉีดช่วงเวลาที่ตรงกัน เช่น ทุกครั้งฉีดช่วงเช้า ก็ต้องฉีดช่วงเช้าทุกครั้ง แต่เท่าที่
เคยได้ยินมาสำหรับ ศิริราชจะต้องตรงเวลาเด๊ะๆไม่เหมือนนวบุตร แต่ยาของ ศิริราช กับ นวบุตรก็เป็นคนละตัวกันด้วยค่ะ
4. การฉีดยาวันที่ 5และวันที่ 7 จะต้องไปคลินิกเพื่อ อัลตร้าซาวน์ เพื่อหมอจะได้ดูว่าขณะนั้นไข่มีขนาดเท่าไหร่และมีจำนวนเท่าไหร่โดยเมื่อหมอดูแล้ว หมอจะมีการปรับปริมาณยาที่จะฉีด ว่าจะให้มากขึ้นหรือน้อยลง โดยปกติผู้หญิงอายุระหว่าง 30-40 ที่เคยอ่านในเว็บมา จะมีไข่ประมาณ 10-20 ฟองค่ะ แต่สำหรับตัวเองได้มากสุดไม่เกิน 5 ฟองค่ะ คุณหมอบอกว่า เป็นที่ร่างกายและอายุค่ะ (คือยังไม่ถึง 40 นะค่ะ แต่ผลิตไข่อย่างกะคน 40 กรรมจริงๆ)
5. วันที่ 9 ของการฉีดฮอร์โมน หมอจะดูขนาดและจำนวนไข่อีกครั้ง ทั้งนี้ ขั้นต่ำไข่จะต้องมีอย่างน้อย 3 ฟอง หมอถึงจะทำต่อให้ ในวันนี้ถ้าหมอให้ทำต่อ หมอจะให้ฉีดยาไข่ตก ทั้งนี้หมอจะนัดเวลาเองว่าจะให้ฉีดเมื่อไหร่ ถ้าจำไม่ผิดหมอจะให้ฉีด ก่อนดูดไข่ประมาณ 36 ชม. (อันนี้ไม่แน่ใจเรื่องเวลานะค่ะ แต่น่าจะประมาณนี้ค่ะ )
6. หมอนัดวันเก็บไข่ โดยจะต้องอดอาหารก่อนการวางยาสลบ ครั้งนี้จะต้องเก็บสเปริ์มจาก คุณผู้ชายด้วยนะค่ะ รวมทั้งหลังวางยาสลบหมอจะให้นอนพักประมาณ 2-3 ชม. หรือแล้วแต่ว่าเราจะรู้สึกโอเคเมื่อไหร่ค่ะ ค่อยกลับบ้าน อันนี้ต้องมีคนพากลับบ้านนะค่ะ ขับรถเองไม่ได้ค่ะ อันตรายค่ะ
7. หลังจากนั้นอย่างน้อย 3 วัน หมอจะนัดใส่ตัวอ่อน โดยก่อนหน้าจะใส่ตัวอ่อนหมอจะบอกว่าเราได้ตัวอ่อนเท่าไหร่ โดย สมมติว่า ด้ไข่ 20 ฟอง หมอจะนำทั้งหมอมาผสมกับ สเปริ์มจะได้ตัวอ่อน และเก็บบางส่วนไว้ แต่ถ้าในบางคนมีตัวอ่อน 3 ตัว หมอจะนำมาใส่ทั้งหมด ทั้งนี้ถ้าได้ไข่ 5 ฟอง ไม่ได้หมายความว่าจะได้ตัวอ่อน 5 ตัวนะค่ะ บางคนไม่ได้ตัวอ่อนเลยก็มีเพราะขึ้นอยู่กับ ความแข็งแรง ของ สเปริ์มและไข่ ด้วยค่ะ และการใส่ 3 ตัวอ่อนก็ไม่ได้หมายความว่าจะติดหมด อาจจะไม่เลยก็ได้ค่ะ (เอาตรงๆคือเอาแน่เอานอนไม่ได้ค่ะ ดวงด้วยล้วนๆค่ะ )
8. วันที่ใส่ตัวอ่อน ไม่มีการวางยาใดๆค่ะ แค่เหมือนทำอัลตร้าซาวน์เท่านั้น โดยพอหมอใส่ตัวอ่อนเสร็จ หมอจะให้นอน 2-3ชม.ก่อนกลับบ้านค่ะเนื่องจากเพิ่งใส่ตัวอ่อน ไม่ควรขยับหรือเกร็งหน้าท้องค่ะ ตอนกลับบ้าน ก็ไม่ควรขับรถเอง ห้ามถือของหนักเด็ดขาด ช่วง 2-3 วันแรก ห้ามท้องเสีย และท้องผูก ด้วยค่ะ เพราะหน้าท้องจะเกร็งค่ะ
9. ทั้งนี้ หมอจะบอกทุกครั้งว่า ไม่มีสูตรอะไร ในการทำให้ติด แต่สิ่งที่ห้ามเลย คือ ช่วงใส่ตัวอ่อน ห้ามเดินขึ้นลงบันได้เยอะค่ะห้ามถือของหนัก ที่สำคัญที่สุดห้ามเครียดเด็ดขาด(คุณหมอบอกว่าเรื่องนี้สำคัญสุดเลยค่ะ ) แต่เราก็ไม่ได้เครียดนะค่ะไหงไม่ติดหว่า? หลังจากใส่ตัวอ่อน หมอจะขอให้พัก 3 วัน ค่ะ หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ เราถึงจะเช็คได้ค่ะ เอาจริงๆก็คือช่วงที่ประจำเดือนจะมาอีกรอบนั่นหละค่ะ หลังจากใส่ตัวอ่อนทางคุณหมอจะนัดเข้ามาฉีดยาค่ะ
คร่าวๆนะค่ะ อ่อ! อีเพื่อนที่เราทำสรุปนี้ให้เมื่อวานเพิ่ง Line มาบอกค่ะ ว่าท้องซะแล้ว และท้องแบบธรรมชาติค่ะ โอ้ยงงจริงๆ ทำไม มันง่ายดายแบบนี้นะ อิจฉา จริงๆ สู้ต่อไปค่ะ ทุกท่าน ส่วนตัวเราเองทำครั้งนี้น่าจะครั้งสุดท้ายแล้วค่ะ เพราะเสียดายตังค์ค่ะ เลยคุยกับแฟนว่า เอาเงินไปเที่ยวดีกว่า อิอิ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเน้อ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ
ReplyDeleteขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์ และเป็นกำลังใจให้นะคะ
ReplyDeleteสู้ๆนะครับ เคสนี้ทำกับคุณหมอทรงเกียรติเลยใช่มั้ยครับ
ReplyDeleteใช่ค่ะเราปรึกษาคุณหมอทรงเกียรติค่ะ แต่ตอนช่วงแรกเราทำกับอาจารย์อีกท่านนะค่ะ เราประทับใจอาจารย์ทรงเกียรตินะค่ะ เพื่อนเราทำครั้งแรกกับอาจารย์ติดเลยค่ะ เลยคิดว่าน่าจะเพราะตัวเองที่ร่างกายไม่พร้อมมากกว่านะค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะค่ะทุกๆคน
DeleteThis comment has been removed by the author.
Delete