ขอเกริ่นเหตุผลที่ ซื้อเจ้านี่มาใช้ก่อนนะค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่าก่อนหน้านี้
เราเป็นคนที่ไม่ได้ใช้เจ้า โทนเนอร์ เลย เพราะ เราเคยไปหาหมอท่านนึง ท่านเป็นหนึ่งใน
หมอผิวหนังที่เก่งที่สุดในประเทศไทยค่ะ ตั้งแต่เด็กเลย ทุกวันนี้ ท่านก็ยังอยู่และโด่งดังมาก
ค่ะ ท่านเคยบอกว่าโทนเนอร์เนี่ย ไม่จำเป็นเป็นสำหรับผิวเลย ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เค้าทำมา
ให้เราเสียตังค์เท่านั้นเอง เราก็คิดแบบนั้มาโดยตลอดค่ะ เชื่อแกค่ะ เพราะแกเป็นหมอที่ไม่
ค่อยให้ยาอะไร จะเน้น แค่การรักษาที่สมเหตุสมผลเท่านั้น แต่ที่เรามาซื้อเจ้าโทนเนอร์ใช้
เนี่ยเพราะเราเพิ่งไปเที่ยวช่วงสงกรานต์มากค่ะ ไปอเมริกา 2 อาทิตย์ เนื่องจากความแห้งของ
อากาศที่นั่น เรารู้สึกเลยว่าผิวเราเวลาจับแล้วจะหยาบๆ ซึ่งเราไม่เคยเป็นแบบนี้เลยค่ะ
คนที่เคยอ่านรีวิวอื่นๆที่เกียวกับเครื่องสำอางของเราคงจะรู้ว่าเราเป็นคนนึงที่ใช้ครีมบำรุง
เยอะมากนะค่ะ การดูแลหน้าเกิน 100 แน่นอนค่ะ เราเลยมาคิดว่า เจ้าตัวไหนน้าที่เราไม่เคย
ใช้เพราะบอกเลยว่า เราใช้ครีมก่อนนอนและครีมเช้าก่อนออกจากบ้านเยอะมากอยู่แล้วค่ะ
นั่นคือเจ้าโทนเนอร์ค่ะ เราก็เลยไปหาข้อมูลค่าว่าตัวไหนดี ก็ เจอหลายตัวนะค่ะ แต่ราคาแพง
เหลือเกินค่ะ แต่ถ้าราคาถูกก็ไม่มั่นใจค่ะ ว่าจะดีและจะแพ้หรือปล่าว เราเลยมาลอง เจ้ายูเซอ
ริน เดอร์มาโทคลีน แคริฟายอึ้งตัวนี้ค่ะ เนื่องจากราคาไม่แพงและเชื่อถือได้ค่ะ ราคาเนี่ยเท่านี้
เลยค่ะ
เราไปซื้อที่ Boots ค่ะ ราคา 630 แต่เรามีเงินในบัตรสมาชิกเราเลยได้ลด 50 บาทเหลือ 580
บาทค่ะ ว้าว ถูกดีจริง ค่ะ เห็นไม๊ค่ะ ไม่ต้องไปซื้อแพงๆที่เค้าเตอร์ แบรนด์ก็ได้ อ่อลืมบอกไป
ว่า นี่เป็น Eucerin ตัวแรกที่เราซื้อเลยค่ะ
เรามาพูดถึงคุณสมบัติที่เจ้าของProduct เค้าชี้แจงก่อนนะค่ะ คือเราไปหาข้อมูลมาจาก
เว็บไซด์ของเค้าว่า มันเหมาะกับทุกสภาพผิวค่ะ เราเองก็คิดอย่างนั้นนะค่ะ เพราะโทรเนอร์ตัว
นี้ใสเหมือนน้ำมากค่ะ ไม่มีแอลกอฮอล์ เมื่อเราใช้มัน จะเป็นการเปิดรับออกซิเจน และเติม
ความชุ่มชื้นให้กับผิวค่ะ ซึ่งเราว่ามันก็จริงนะค่ะ เพราะเราจะสดชื่นเมื่อเราเช็ดมันค่ะ โดยเรา
จะเอาสำลีเทโทเนอร์และเช็ดหน้าค่ะ เค้าว่ามันจะช่วยกระชับรูขุมขนด้วยค่ะ เค้ายังบอกอีกนะ
ค่ะว่ามันช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวค่ะ ซึ่งข้อนี้สำคัญนะค่ะ การที่เราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่อง
การผลัดเซลล์ผิวจะให้หนังกำพร้าที่หลุดลอกติดค้างอยู่ออกมาค่ะ จะทำให้หน้าใส สะอาด
และลื่นเนียนค่ะ สมัยก่อนเราจะมักใช้วิตามินซี เข้มข้นช่วยค่ะ แต่ พออายุขึ้นเลย 3 ก็เลิกค่ะ
เพราะ กลัวว่าผิวจะไม่เหมือนสาวๆ กลัวจะแห้งซะป่าวๆค่ะ เรามาดูเจ้า Packaging Toner
กันค่ะ
เหมือนน้ำเลยเน้อ ตอนที่จะซื้อ สองจิตสองใจค่ะ ว่าเฮ้ย มันจะแรงพอกับเราไม๊ว้า
ป้ายติด ราคา ตั้ง 700 ค่ะ แต่แหม เอาจริงๆมันไม่ใช่นะ ถูกกว่าเป็นร้อย
อันนี้เค้าบอกวิธีทำความสะอาดหน้า 3 ขั้นตอนค่ะ โดยเจ้าโทนเนอร์จะอยู่ขั้นที่ 3 นะค่ะ
แนวๆว่า ใช่ยี่ห้อชั้นทุกขั้นตอนซิ อะไรแบบนั้นหละค่ะ
อันนี้ก็บอกคุณสมัติ และวิธีการใช้ค่ะ ว่าให้เทใส่สำลี อะไรแบบนั้นค่ะ เพราะเท่าที่สังเกตุ
เดี๋ยวนี้เค้าจะมีเครื่องสำอางบางประเภทนะค่ะที่เค้าจะให้เทที่มือแล้วเอามาตบๆที่หน้านะค่ะ
เจ้าตัวนนี้ไม่ใช่นะค่ะ เทใส่สำลีเท่านั้นค่ะ
ถอดเจ้ากล่องข้างนอกออกมาค่ะ จะเจอด้านในค่ะ ที่เป็นกล่องพลาสติก เราจะสามารถเห็น
น้ำด้านในได้เลยค่ะ
แกะกล่องออกมาก็จะเจอขวด ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนน้ำเปล่านะค่ะ นี่มันน้ำเหล่า หรือปล่าวค่ะ
เนี่ย เริ่ม สับสน
เปิดฝาเกรียวๆ หมุนๆออกมาก็จะเป็นอย่างนี้ค่ะ ค่อนข้างเทง่ายค่ะ ออกมาพอดี
ไม่มากไม่น้อย ค่ะ
บอกเลยว่าไม่รู้ถึงความแตกต่างเท่าไหร่ อาจจะเพราะแค่ 3 อาทิตย์นะค่ะ แต่ตอนนี้หน้า
ที่เคยหยาบกร้าน จากการไปเที่ยว หายดีหมดแล้วค่ะ ก็พอกลับมาบ้านอากาศร้อนชื้นของที่
เมืองไทยนะค่ะ ไม่หายก็แย่หละ เพราะร้อนแสบ เหงื่อโชกขนาดนี้ (จาก-2 กลับมา 40 ตายค่า
ตาย) บวกกับเราบำรุงเพิ่มด้วยว่านหางจระเข้ กับผงเพิ่มความชุ่มชื้นของไทยที่ขายตามห้าง
สรรพสินค้านะค่ะ (เราคิดว่าน่าจะเป็นพวกขมิ้นนะค่ะ เพราะผงมันสีออกเหลืองนะค่ะ) ขอบอก
ว่าดีเลิศ ในราคาประหยัดมากค่ะ เราเองใช้ว่านจระเข้มาตั้งแต่อายุ 14 -15 นี่หละค่ะ เพราะที่
บ้านปลูกไว้เยอะมากนะค่ะ ส่วนเจ้าผงนี่ ก็น่าจะใช้ตอน 18-19 ค่ะ ใช้มานานแล้วทั้ง 2 ตัวนี้
ไม่เคยแพ้แต่อย่างใดค่ะ หลายคนถามเคล็ดลับดูแลผิวของเรา บอกได้เลยค่ะ ว่าว่านหาง
จระเข้ มาเข้าเรื่องเจ้า Toner ต่อดีกว่าเน้อ ถ้าใครถามเราว่า สรุปแล้วชั้นควรจะซื้อเจ้า Toner นี่
มาใช้ดีไม๊เนี่ย เอาวิธีคิดแบบเราตอบนะค่ะ ซื้อเถอะค่ะ เพราะราคาเจ้านี่ไม่ได้แพงมากมาย
อะไรใช้ได้น่าจะนานอยู่ 200 ml แน่ะ แล้ว Eucerin เป็นเวชสำอาง เพราะฉะนั้น เราว่าไม่น่าจะ
มีใครแพ้ ปลอดภัยกับทุกสภาพผิว หล้งเราเช็ดมันด้วยสำลี เราว่าก็สดชื่นดีนะค่ะ ไม่ได้เย็น
แบบใส่ แอลกอฮอร์ แต่ก็สดชื่อค่ะ เราเองก็จะเริ่มใช้อย่างต่อเนื่องแล้วค่ะ เราถือคติว่า ใช้ไป
เถอะอะไรที่ไม่แพ้ ใช้ดีกว่าไม่ได้ใช้ ใช้เยอะดีกว่าใช้น้อย ราคาก็ไม่แพง อายุจะ 40 แล้วต้อง
ดูแลกันหน่อย่คะ อ่อ ขอย้ำนะค่ะ คนเราไม่มีใครเกิดมาผิวดีหน้าสวยกันหรอกนะค่ะ เราต้อง
บำรุง เสริมแต่งนะค่ะ ผู้หญิงจะแก่แค่ไหนก็อย่าหยุดสวยค่ะ
ที่เคยหยาบกร้าน จากการไปเที่ยว หายดีหมดแล้วค่ะ ก็พอกลับมาบ้านอากาศร้อนชื้นของที่
เมืองไทยนะค่ะ ไม่หายก็แย่หละ เพราะร้อนแสบ เหงื่อโชกขนาดนี้ (จาก-2 กลับมา 40 ตายค่า
ตาย) บวกกับเราบำรุงเพิ่มด้วยว่านหางจระเข้ กับผงเพิ่มความชุ่มชื้นของไทยที่ขายตามห้าง
สรรพสินค้านะค่ะ (เราคิดว่าน่าจะเป็นพวกขมิ้นนะค่ะ เพราะผงมันสีออกเหลืองนะค่ะ) ขอบอก
ว่าดีเลิศ ในราคาประหยัดมากค่ะ เราเองใช้ว่านจระเข้มาตั้งแต่อายุ 14 -15 นี่หละค่ะ เพราะที่
บ้านปลูกไว้เยอะมากนะค่ะ ส่วนเจ้าผงนี่ ก็น่าจะใช้ตอน 18-19 ค่ะ ใช้มานานแล้วทั้ง 2 ตัวนี้
ไม่เคยแพ้แต่อย่างใดค่ะ หลายคนถามเคล็ดลับดูแลผิวของเรา บอกได้เลยค่ะ ว่าว่านหาง
จระเข้ มาเข้าเรื่องเจ้า Toner ต่อดีกว่าเน้อ ถ้าใครถามเราว่า สรุปแล้วชั้นควรจะซื้อเจ้า Toner นี่
มาใช้ดีไม๊เนี่ย เอาวิธีคิดแบบเราตอบนะค่ะ ซื้อเถอะค่ะ เพราะราคาเจ้านี่ไม่ได้แพงมากมาย
อะไรใช้ได้น่าจะนานอยู่ 200 ml แน่ะ แล้ว Eucerin เป็นเวชสำอาง เพราะฉะนั้น เราว่าไม่น่าจะ
มีใครแพ้ ปลอดภัยกับทุกสภาพผิว หล้งเราเช็ดมันด้วยสำลี เราว่าก็สดชื่นดีนะค่ะ ไม่ได้เย็น
แบบใส่ แอลกอฮอร์ แต่ก็สดชื่อค่ะ เราเองก็จะเริ่มใช้อย่างต่อเนื่องแล้วค่ะ เราถือคติว่า ใช้ไป
เถอะอะไรที่ไม่แพ้ ใช้ดีกว่าไม่ได้ใช้ ใช้เยอะดีกว่าใช้น้อย ราคาก็ไม่แพง อายุจะ 40 แล้วต้อง
ดูแลกันหน่อย่คะ อ่อ ขอย้ำนะค่ะ คนเราไม่มีใครเกิดมาผิวดีหน้าสวยกันหรอกนะค่ะ เราต้อง
บำรุง เสริมแต่งนะค่ะ ผู้หญิงจะแก่แค่ไหนก็อย่าหยุดสวยค่ะ
Comments
Post a Comment