Skip to main content

วิธีการรักษา คีลอยด์(Keloid)

         ขอเล่าย้อนนิดนึงนะค่ะ คือประมาณปลายปีที่แล้วนะค่ะประมาณ พฤศจิกายนหรือธันวาคม (2558) นี่หละค่ะ เราหกล้มในที่จอดรถค่ะ คือมันมืดนะค่ะ ประมาณ 5 โมงเย็น รปภ.ไม่ยอมเปิดไฟค่ะ เราไปสะดุดตัวหนอนที่กั้นล้อหลังรถนะค่ะ ล้มคะมำเลยค่ะล้มบนพื้นปูนหยาบๆนะค่ะ พื้นที่จอดรถนะค่ะ เจํบทั้งขาและมือค่ะ เพราะเอามือยันพื้นทัน ไม่อย่างงั้นเอาหน้าลงแน่นอนค่ะ
      รูปนี้แผลเริ่มตกสะเก็ตค่ะ



           เราก็รักษาตามปกติค่ะ ( ปกติของเรานี่คือครบสูตรหมอศัลยกรรมแนะนำเลยนะค่ะ เพราะได้ความรู้จากคุณเพื่อนที่เป็นภรรยาหมอมานะค่ะ นางสอนละเอียดยิบ ต้องขอบคุณนาง) เราก็รักษาจนแผลหาย กลัวมีรอยก็ทา Dermatix อย่างเคยค่ะ


ด้วยเพราะกลัวมีแผลเป็น ก็เลย ซื้อมาอีกหลอดนึงค่ะ ทามันทั้งที่บ้านและที่ทำงาน มีมัน 2 ที่เลยค่ะ กระหน่ำทาแบบสุดๆ  แผลหลังจากผ่านไป 2-3 เดือนก็เป็นแบบนี้ค่ะ 


      ก็เหมือนแผลปกติเน้อ สะเก็ดหลุดออกมาหละ เนื้อตรงนั้นเป็นสีชมพูค่ะ เราก็นึกว่าก็ปกติ             ไม่มีอะไรตอนนี้ ก็ยังคงทา Dermatix นะค่ะ กระหน่ำทาเลยค่ะ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปมัน
เริ่มไม่ปกติแล้วค่ะ ทำไมมันมีสีและบวมๆเป็นเส้นนูนออกมาหละ


 เนื่อจากถ้าลองสังเกตุ เราเป็นคนชอบใส่แหวนค่ะ เราจะใส่ทั้งมือซื้อและมือขวาค่ะ ยิ่งมือขวาเราใช้บ่อย กวัดแกว่งตลอด เราเลยเริ่มอึดอัดกับอีแผลนี้ค่ะ และเดาว่า มันน่าจะคือ คีลอยด์ที่เค้าเป็นกันนะค่ะ 
เราขอบอกก่อนนะค่ะ เราไม่เคยเป็น คีลอยด์เลยค่ะ ครั้งนี้ครั้งแรกค่ะ แอบตกใจนิดนึง ลองหาข้อมูล ก็รู้ว่ามันค่่อนข้างน่ากลัวเพราะมันอาจจะโตขึ้น และมีอาการคันได้ค่ะ คือแผลเราถือว่าเล็กมากค่ะ น่าจะประมาณแค่ ครึ่งเซนติเมตรเองค่ะ เราเลยเริ่มหาข้อมูลการรักษาค่ะ วิธีรักษาค่ะ 

             วิธีนึงที่เจอคือฉีดยา ก็คือ ฉีดสเตอรอยด์นั่นหละค่ะ เข้าไปที่ชั้นผิวหนังที่ผิดปกติ
 ส่วนชนิดของมันคืออะไร คุณเพื่อนภรรยาหมอบอกว่าก็คือ อีชนิดเดียวกับที่เค้าฉีดสิวอักเสบนั่นหละค่ะ เราเลยถึงบางอ้อเลยค่ะ เพราะตอนแรกแอบกลัวเพราะ คุณเพื่อนอธิบายว่า การฉีดควรจะฉีดกับคุณหมอที่จบด้านศัลยกรรมตกแต่งนะค่ะ ไม่ควรฉีดกับคุณหมอด้าน Skin ค่ะ เพราะถ้าฉีดไม่ได้ ผิวหนังตรงที่ฉีดอาจจะเป็นหลุมได้ ถ้าการกะปริมาณยาไม่ถูกต้องนะค่ะ  แต่เราก็โทรไปหลายที่ค่ะ คุณหมอด้นศัลยกรรมตกแต่งมองว่าเคสเราเป็นเคสเล็กค่ะ เพราะหมอที่จบด้านศัลยพรรมตกแต่งส่วนใหญ่เค้าก็ ไปทำจมูกทำนม อะไรแบบนั้นมากกว่านะค่ะ เราเลยทำใจค่ะ เอาง่ายๆหละกัน คลินิกรักษาผิวที่นึงที่เราคิดถึง คือคลินิกชื่อดังกลางใจเมือง ที่มีสาขามากมายค่ะ เราดูใน Website มีวิธีการรักษาแบบใหม่โดยใช้เทคนิคพิเศษอะไรเนี่ยหละค่ะ  เราเลยตัดสินใจไม่ไปที่นี่ค่ะ เพราะเราว่าต้องโดนขายของแน่นอนค่ะ เราเลยเลือกที่นี่ค่ะ ธาดา คลินิก เพราะหมอที่เราเคยรักษา มาตรวจที่นี่ด้วยค่ะ เราเลยโทรไปถามว่า
คุณหมอเข้าไม๊ คุณหมอเข้าค่ะ แต่เป็นท่านที่เรา ไม่รู้จักนะค่ะ แต่เราค่อนข้างเชื่อใจคลีนิกนี้ค่ะ 
จะใครก็ไม่เป็นไรค่ะ เลยตรงดิ่งไปเลยค่ะ 

พอเลิกงานเลยตรงดิ่งไปเลยค่ะ ที่ All Season Place ชั้น 3 ตึก CRC (เอ่อไม่ได้ค่าโฆษณานะค่ะ แต่ถ้าให้ก็ไมว่านะค่ะชอบค่ะ) อิอิ  คุณหมอที่เราพอคือคุณหมอภาคีนัย(ถ้าเขียนผิดต้องขอโทษด้วยนะค่ะพอดีอ่านจากใบเสร็จนะค่ะ) เข้าไปถึงคุณหมอก็ดูที่แผลค่ะ บอกว่าเป็นแผลเป็นชนิดหนึ่ง วิธีรักษาเบื้องต้นก็ฉีดยาค่ะ เอาจริงๆแผลเราเล็กมากนะค่ะ เราเลยถามว่าเกิดจากอะไร คุณหมอบอกว่ากรรมพันธ์ุค่ะ งงค่ะ เพราะครอบครัวไม่มีใครเป็นเลย มาจากไหนเนี่ย  คุณหมอบอกว่ามาฉีดดีแล้วเพราะถ้าปล่อยไปอาจจะโตได้ค่ะ คุณหมอบอกว่าจะเกิดขึ้นได้กับจุดที่มีการขยับเขยื้อยตลอดนะค่ะ ก็คงจริงเพราะเราเป็นที่มือ ขวานิ้วกลางเลยค่ะ ขยับตลอด พิมพ์โทรศัพท์ก็ตลอด ไม่พลาดแน่ 

คุณหมอให้ไปอีกห้องค่ะ เพื่อฉีดยา ไม่มีการทายาชาใดๆค่ะ ฉีดมันโท่งๆอย่างงี้เลยค่ะ แทงที่แผลนานพอสมควรเลยค่ะ เดินยานานมาก คุณหมอบอกไม่กลัวเข็มเลยเน้อ ก็เลยบอกว่าไม่กลัวหรอกค่ะ เคยทำ IVF มาเรื่องนี้จิ๊บๆค่ะ คุณหมอถามว่าทำที่ไหน เลยบอกว่านวบุตรค่ะ คุณหมอพูดชื่อนวบุตรพร้อมกันเลยค่ะ ท่าทางจะดังจริงแฮะ นวบุตรเนี่ย 55555

ขอเล่าความเจ็บตอนฉีดนะค่ะ คือมันเจ็บมากน่ะค่ะ ฉีดฮอรโมนที่พุง กลายเป็นจิ๊บๆไปเลยค่ะ คือเนื่องจากเป็นบริเวณที่ผิวหนังบางมาก เลยค่อนข้างเจ็บมากค่ะ เลือดออกมานิดนึงเหมือนกันค่ะ พอฉีดเสร็จนี่โล่งใจมากค่ะ 

คุณหมอบอกว่า อาจจะต้องฉีด 2 ครั้งค่ะ แต่เนื่องจากแผลเราค่อนข้างเล็กนะค่ะ เลยมาอีกครั้งเดียวก็น่าจะพอค่ะ  หวังว่าครั้งแรกจะหายนะค่ะ เจ็บน่ะ ส่วน Dermatix คุณหมอบกว่าทาทั้ง 2 อันคู่กันไปได้เลยค่ะ ไม่ได้มีอะไรเสียหาย (จริงดิ)   ถามคุณเพื่อนอีกแล้ว่คะ คุณเพื่อนบอกว่าจะทาทำไมค้า สเตอรอยด์นี่สุดๆแล้วยาทาภายนอกไม่จำเป็นแล้วค่า จบข่าวค่ะ (แต่เราก็ยังทา Dermatix นะค่ะ 5555)


คือพอฉีดเสร็จเนี่ยจะมีอาการปวดเป็นช่วงๆนะค่ะ คือไม่ได้เจ็บตลอดค่ะ สามารถขับรถกลับบ้านได้ค่ะ แต่จะมีบางช่วงที่ปวดเหมือนยามันเดินนะค่ะ (คิดไปเองป่าวไม่รู้ค่ะ ) ถ้าจะแนะนำเราว่าถ้าใครรักษาที่มือ ให้มีคนขับรถให้ดีกว่านะค่ะเพราะเราว่าอันตรายเหมือนกันค่ะ ขนาดเราถึกๆ ยังว่าไม่ไหวเลยค่ะ 

มาดูค่าเสียหายค่ะ 


คือพยาบาลแจ้งว่าคุณหมอไม่คิดค่ารักษาค่ะ เอ่อหรอคะ ตอนแรกพยาบาลแจ้งว่า 200 บาท ถูกจังแฮะ 
คุณหมอให้ยามา 1 ตัวคือ Dermovate Oint ที่ฝามีแปะไว้นะค่ะบอกให้ทา เช้า-เย็น 
ตามบิลนะค่ะ เนื่องจากเราซื้อ Makeup Remover นะค่ะ เลยดูเหมือนแพง แต่ค่ารักษาจริงๆคือ ดังนี้ค่้ะ 
-ค่ายาทา 330 บาท  /  - ค่าฉีดยา 0.25 ml  160 บาท (พระเจ้า 160 บาทเนี่ยนะ)
รวมทั้งสิ้นนะค่ะ  490 บาทค่ะ 




ยาตัวนี้ค่ะ ก็เลยนำเรื่องไปถามคุณเพื่อนท่านเดิมค่ะ ว่ามันคือยาอะไร คุณเพื่อนบอกว่า เอามาทำไม     ไม่เห็นต้องทาเลย มันคือสเตอรอย์อย่างแรง ซึ่งแผลคีลอยด์ เมื่อฉีดเข้าไปที่ชั้นผิวหนังแล้วไม่จำเป็นต้องทา จะทาทำไม พระเจ้า!!!! กรรมหละ ตัวนี้ใช้สำหรับคนเป็นโรคสะเก็ดเงินนะค่ะ แต่นะค่ะ 
เมื่อเอามาแล้วทาก็ได้ฟะ ทาแค่ 1 อาทิตย์พอ เพราะมันเป็นสเตอรอยด์ยังไงก็ไม่ดี
 ไม่ควรทาติดต่อเกิน 2 อาทิตย์ ใครสนใจลองไปหาใน Google ดูหละกันค่ะ 
เจ้าครีมนี่เหมือวาสลีนมากค่ะ มันๆ ทาไปไม่มีความรู้สึกอะไรค่ะ 

มาดูหลังจากฉีดค่ะ 



เช้ามาอาการเจ็บตุ๊บๆ ไม่มีแล้วค่ะ รู้สึกปกติ คือ เราพยายามดูรูปที่เคยถ่ายก่อนที่จะฉีดค่ะ เหมือนมันจางลง ใครเข้ามาอ่าน ช่วยบอกเราหน่อยนะค่ะ ว่ามันดีขึ้นไม๊ เรามองไม่ออกค่ะ 555 เดี๋ยวยังไงเราจะ up date เรื่องนี้จนกว่าแผลจะหายค่ะ

วันที่ 2 นี่เหมือนช่วงก่อนฉีดยาเลยค่ะ แต่สังเกตว่าผิวออกสีชมพูค่ะ ตรงก้อนเนื้อที่นูน 
สงสัยได้ฉีดรอบ 2แน่นอนเลยค่ะ แต่คุณเพื่อนบอกว่า ต้องซัก 2-3 วันหลังฉีดถึงจะมีการเปลี่ยนแปลง ยังไงเดี๋ยว รอดูหละกันนะค่ะ
 
ครบอาทิตย์แล้วค่า..... แต่ทำไมเหมือนไม่เปลี่ยนแปลงเลยหละ แต่เท่าที่สังเกตนะค่ะ
เหมือนความหนาของแผลเป็นบางลงกว่าตอนแรกค่ะ แต่ดูเผินๆไม่ค่อยเปลี่ยนค่ะ
หลังจาก 2 อาทิตย์ ไปหาหมออีกค่ะคราวนี้ไปวันอังคาร พบคุณหมออภิรักษ์(คุณหมอท่านนี้เราไปรักษากะแกที่ รพ.บางมดค่ะ) เลยไว้ใจ
พบคุณหมอก็ฉีดยาเหมือนเดิมค่ะ และคุณหมอให้ไปพบหลังจากนั้น 1 เดือนค่ะ นี่รูปหลังฉีดค่ะ
 

Comments

Popular posts from this blog

ยาลดโปแลคตินสำหรับคนที่ต้องการมีลูก Bromergon 2.5 mg

        วันนี้เราขอเล่าเรื่องยาตัวนี้ค่ะ  Bromergon  2.5 mg  เราได้ยาตัว นี้มาจาก นวบุตรค่ะ  เนื่องจากเรา ตรวจเลือกแล้วค่า  โปแล คติน เราสูงมากค่ะ  ซึ่งการที่ค่าโปแล คติน สูงจะทำให้ไข่ไม่ตกค่ะ ซึ่งสำหรับคนต้องการมีลูก โดยผู้ที่ทำ  IVF / ICSI  ต้องมีการปรับโปแล คติน ก่อนการเริ่มทำ  IVF / ICSI  ค่ะ ถ้าไม่ปรับ ทำยังไงก็ไม่ติดค่ะ   เราขอ  Copy  ข้อมูลทางการแพทย์มานะค่ะ ภาวะ โปร แล คติน สูงผิดปกติทำให้ไข่ไม่ตก ( Hyper  prolactinemia )           หญิงวัยเจริญพันธุ์ปกติโดยทั่วไป   โดยจะมีการตกไข่จากรังไข่ทุกเดือน ขบวนการกระตุ้นการตกไข่โดยธรรมชาติ   เริ่มจากฮอร์โมนของสมองส่วนล่าง ( Hypothalamus)  ถูกหลั่งมากระตุ้นต่อมใต้สมองส่วนหน้าให้ผลิตฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อการกระตุ้นรังไข่  2  ชนิด คือ  FSH (Follicular Stimulating Hormone)  และ  LH ( Lateinizing  Hormone) FSH  และ  LH  จะกระตุ้นรังไข่   ทำให้ไข่และถุงไข่เจริญเติบโตพร้อมกับมีการสร้างฮอร์โมนเพศ เอสโตร เจน ( Estrogen)  เพิ่มขึ้นและ  “ ตกไข่ ”  ในที่สุด             หลังการตกไข่   ถุงไข่เปลี่ยนสภาพเป็น คอร์ปัสลูเตียม  ( Corpus  luteum )  และผล

เริมที่มือ ตุ่มใส่ มีอาการแสบร้อน ติดเชื้อไวรัส

ไม่ได้เขียนซะนานเลยค่ะ Blog นี้ เพราะไม่มีเรื่องอะไรโดนๆเลยเงียบไปค่ะ และแล้วเรื่องที่น่าสนใจก็เกิดขึ้นค่ะ      เมื่อ  2 - 3 วันที่แล้วนี้เองค่ะ ที่ง่ามนิ้ว ของเรา มีตุ่มๆใสๆเกิดขึ้นค่ะ คือตื่นนอนมาก็รู้สึกได้เลยว่ามีอะไรไม่เนียนที่ง่ามนิ้วค่ะ ในวันแรกที่เจอ ไม่มีอาการอะไรค่ะ แค่เป็นตุ่มใส น่าลำคาญ แบบรูปด้านล่างนี้ค่ะ   วันแรกจะเห็นว่าเป็นแค่ตุ่ม สีออกชมพู โดยรอบนะค่ะ ไม่มีอาการอะไรนอกจากลำคาญค่ะ  เราก็คิดว่าคงผิวหนังอักเสบเพราะเราเป็นค่อนข้างบ่อย ซึ่งเกิดจาก การอาบน้ำร้อน เราเลยมียาที่ติดบ้านไว้เลยค่ะ คือตัวนี้ค่ะ     ยาตัวนี้เป็นสเตอรอยด์ ค่ะ  สามารถทาได้แต่ต้อง ทาไม่เกิน 7 วันนะค่ะ เพราะอย่างงั้นจะมีผลไม่ดีกับร่างกายค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าผิวหนังอักเสบเราใช้ยาตัวนี้ วันที่ 2 ที่ทาแผลก็จะแห้ง อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ แต่สำหรับครั้งนี้ ไม่เลยค่ะ ไม่มีท่าทีง่าจะยุบ และคืนที่ 2 ที่ทา เรารู้สึกแสบร้อนที่มือเหมือนมือ โดนสารเคมีอะไร แบบนั้นเลยค่ะ         วันที่ 3 ที่มีอาการตื่นขึ้นมารู้สึกเจ็บที่แผลเลยค่ะ แล้วก็ต้องตกใจเพราะแผลสีเริ่มออกแดงขึ้นค่ะ เลยตัดสินใจไปหมอ

การเตรียมตัวก่อนการใส่ตัวอ่อนแช่แข็ง หลังประจำเดือนมาครั้งที่3หลังขูดมดลูก

       วันนี้เป็นวันที่ประจำเดือนมาเป็นวันที่2ของรอบประจำเดือนที่3หลังขูดมดลูกค่ะ  เราได้เขียนไว้ก่อนหน้านี้ว่าคุณหมอให้ยาพ่นจมูกมานะค่ะ ซึ่งเราได้ พ่นจมูกมา14วันก่อนประจำเดือนมาแล้วค่ะ ตามที่คุณหมอบอกให้ไปตรวจเลือดค่ะเราเลยดิ่งไป นวบุตร แต่เช้าตรู่ค่ะ ก็เจาะเลือดตามระเบียบนะค่ะ คุณพยาบาลให้ยามาทานค่ะ โดยผลเลือดจะโทรมาแจ้งช่วงบ่ายค่ะว่าสามารถจะเข้าโปรแกรม ivf ได้หรือไม่ เราได้ยามา4แผงค่ะโดยสามารถ ทานเม็ดไหนยังไงก็ได้ค่ะเพราะตัวยาทุกเม็ดเหมือนกันหมดค่ะ     คือยา Progynova 2 mg ค่ะซึ่ง เราไปsearch ในGoogle เจอรายละเอียดดังนี้ค่ะ   เป็นยาที่เตรียมเยื่อบุมดลูกสำหรับการเตรียมการวางตัวอ่อนแช่แข็ง  คุณสามีถามคุณพยาบาลด้วยค่ะ ว่าเจ้ายาตัวนี้ทานเพื่ออะไร พยาบาลบอกว่าเพื่อให้ผนังมดลูกสมบูรณ์ค่ะ ขอนำมาจาก website : www.pharmacy.mahidol.ac.th นะค่ะ Progynova  มีตัวยาสำคัญคือ  estradiolvalerate ซึ่งเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนที่พบได้ทั้งในชายและหญิง แต่ในเพศหญิงจะผลิตในปริมาณที่สูงกว่าเพศชายมาก  Progynova จะใช้เพื่อทดแทนฮอร์โมนเพศในหญิงวัยหมดประจำเดือนหรือ หญิงที่ได้รับการผ่าตัดเอามดลูกออก ในร่างกายฮอร์โม