เลเซอร์ CO2 ลบติ่งเนื้อ กระเนื้อ คืออะไร

                วันนี้มาเรื่องเลเซอร์อีกแล้วค่ะ เพิ่งไปทำมาเมื่อคืนค่ะ เลยเข้ามาเขียนก่อนที่จะลืมค่ะ  คือเกิดรำคาญ อีเม็ดเหมือนไขมันขาวๆที่บริเวณสันจมูก เกือบถึงตานะค่ะ คือเอาจริงๆคนไม่ค่อยเห็นหรอกค่ะ แต่คืออีคนเป็นแต่งหน้ามันเห็นทุกวันนะค่ะ ทนไม่ได้แล้ว เลยจะจัดการซะหน่อย

                ที่เดิมค่ะ ตอนนี้กำลังชอบทื่  ธนิยะ เมดิคัล แอนด์ บิวจี้ เซ็นเตอร์ ค่ะ คือวันนี้จริงๆตั้งใจมาทำ คอปเปอร์ เหมือน คราวที่แล้วค่ะ เพราะคราวที่แล้วทำลบรอย ที่เกิดจากสิว ที่แก้มไปค่ะ พอพบคุณหมอ คุณหมอบอกว่า จางลงพอสมควรแล้ว เลยบอกว่าไม่ต้องทำอีกหรอกเพราะมันจะทำให้แดงขึ้นมาค่ะ คือตอนแรกที่เราไปเพราะคิดว่าจะทำอีกให้หน้าใส แต่เมื่อคุณหมอพูดอย่างงี้เลยคิดว่า ok ไม่ทำก็ได้  เลยถามต่อค่ะ ว่าพอดีฝ้าขึ้นเยอะมากนะค่ะ เลยอยากจะรักษาฝ้า (คือจริงๆฝ้าเพิ่งขึ้นหลังจากทานยาตัวนึงที่ไปช่วยเรื่องบำรุงสำหรับการมีบุตรยากนะค่ะ) คุณหมอบอกว่า อย่าทำอะไรเลยยังไม่เยอะ ถ้าทำ ต้องดูแลดีมากๆทายากันแดดและอื่นๆอีกมากเพราะถ้าทำอะไรไปแล้วไม่ดูแลจะหนักกว่าเดิม ว้ายกรี๊ด เป็นหมอที่อื่น คงให้ซื้อคอร์ส มากมายไปแล้ว แต่นี้ไม่ ว้ายดีใจจริงๆค่า 

                ความพยายามที่จะทำอะไรของเรายังไม่สิ้นสุดค่ะ  เอาอีก คุณหมอค่ะ คือ ตรงเนี้ย (ตรงสันจมูก ใก้ลตา ) มีเม็ดเหมือนเม็ดข้าวสาร ขึ้นนะค่ะ อยากเอาออก (คือถ้าเป็นคนอื่นคงไม่เอาออก นะค่ะ แต่เราไม่ค่ะ นิดเดียวก็ไม่ได้ค่ะ) โอเค คราวนี้สำเร็จ  คุณหมอ ถามอีกครั้งค่ะ ว่าจะทำ CO2 หรอ  โอเค คุณหมอเริ่มดูอย่างละเอียดค่ะ โดยให้มานอน บนเตียงค่ะ และวงกลุ่มจุดที่จะทำ นึกว่าจุดเดียว คุณหมอวงกลมไปทั่วหน้าค่ะ รวมทั้งบริเวณช่วงคอด้วยค่ะ ว้ายเรามีติ่งเนื้อขนาดนี้เลยหรือ  คือ เราเป็นคนที่ผิวขาวมากนะค่ะ คือถ้ามันไม่ใหญ่หรือไม่มีสี เราจะไม่รู้เลยว่ามีเนื้อออกมานะค่ะ (คุณหมอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะกรรมพันธุ์)   ต่อมา คุณหมอเรียกคุณพยาบาลมาทายาชาตามที่ เขียนไว้ค่ะ  หลังจากนั้น รอค่ะ จริงๆ รอประมาณ 30 นาทีค่ะ แต่เรารอนานกว่านั้นเนื่องจากคนไข้เยอะ เลยรอเกือบ 1 ชม. แต่ไม่เป็นปัญหาค่ะ เพราะเราไม่ได้จองเพราะคิวเค้าเต็มเรา walk in เข้าไป เลยทำใจค่ะ ที่นี่คนเยอะจริงๆ

เราขออนุญาตทาง ธนิยะ เมดิคัล คัดลอกเนื้อหาใน Web site มานะค่ะ

       CO2 Laser (Carbondioxide Laser )
เทคนิคการใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ ที่เป็นพลังงานแสงของเครื่องแสงอินฟาเรด ที่มีประสิทธิภาพของการรักษากระเนื้อ หูด ไฝ ซีสต์ฯ โดยเลเซอร์จะถูกดูดซับน้ำที่เป็นส่วนประกอบในชั้นผิวหนังกำพร้า และหนังแท้ ทำให้เกิดความร้อนสูงในตำแหน่งที่ต้องการรักษา ทำให้ส่วนเกินที่ไม่ต้องการหลุดลอกออกไป เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่ต้องเสียเวลา ทำเพียงครั้งเดียว

                ขั้นตอนการทำเลเซอร์ เราย้ายมา อยุ่ที่ ห้องเลเซอร์ค่ะ นอนรอแป๊บนึง เราไอค่ะ คุณพยาบาลเลยถามว่าจะเอาน้ำอุ่นไม๊ เราบอกไม่เป็นไรขอบคุณค่ะ  (ที่นี่พยาบาลเค้าน่ารักจังแฮะ) ขั้นตอนเลยนะค่ะ คุณพยาบาลมาเช็ดยาชาตามจุดต่างๆที่ทาไว้ออกค่ะ  แล้วก็เอาเครื่องที่หัวเหมือนปากกาส่งที่บริเวณหน้าเราค่ะ แล้วคุณหมอก็เริ่มทีละจุดค่ะ ขณะทำเราหลับตาค่ะเพราะ มันมีแสงจากโคมมาสว่างมาค่ะ แสบตานิดๆ ขณะทำมีกลิ่นไหม้ๆนิดๆ ไม่รู้สึกเจ็บอะไรค่ะ เหมือนขูดๆนิดๆ แล้วก็มีเครื่องเหมือนเครื่องดูดฝุ่น ดูดอยู่ใกล้ ๆ (เราคิดว่าน่าจะคล้ายดูด ชิ้นเนื้อที่หลุดจากเลเซอร์นะค่ะ) เราทำเสร็จคุณพยาบาลก็ก็เช็ดหน้าให้ค่ะ คุณหมอถามว่าอยากได้ครีมอะไรไม๊ เราเลยบอกเลยว่ากำลังจะบอกคุณหมอเลยว่าอยากได้อะไรไปทาเพราะตอนนี้ไม่ได้ทาอะไรเลย คุณหมอเลยให้ยามาดังนี้เลยค่ะ

1.       Bacidal แบคศิดัล    เป็นครีมที่ทารอบที่ทำ CO2 ไปค่ะ ที่ป้ายเขียนว่าทาเช้าเย็นค่ะ 

   

   

2.       BHA Body lotion  อันนี้คุณหมอให้ทา คอ-แขน-ขา  คุณหมอบอกว่าพวกกระเนื้อที่เราเป็นเนี่ย มันสามารถ ช่วยให้มันเกิดช้าขึ้นได้โดยการทาครีมตัวนี้ค่ะ เพื่อให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวได้ดีค่ะ ไม่เหนียวมากเ่ท่าไหร่ค่ะ รู้สึกเหมือนมีแผ่นฟิลม์บางๆ เคลือบเล็กน้อยค่ะ สนนราคา 450 บาทค่ะ 

3.       LA ROCHE-POSAY  SENSE WHITE ESSENCE  ตัวนี้เราว่าน่าจะหาซื้อได้ทั่วไปไม่ยากค่ะ  ตัวนี้คุณหมอบอกว่าเป็นตัว Whiting ค่ะตัวนี้น่าจะทำให้หน้าขาวขึ้นค่ะ   ตัวนี้ Plan ไว้แล้วว่าจะไปซื้อเองข้างนอกน่าจะถูกกว่า ซื้อที่นี่ราคา 1,805 บาทค่ะ

4.       Juvinity Cream  ตัวนี้ทางคลินิกน่าจะทำขึ้นมาเองค่ะ เขียนว่าให้ทาตอนนอนเท่านั้นค่ะ ตัวนี้คุณหมอบอกว่าน่าจะช่วยเรื่องสำหรับริ้วรอยค่ะ ชอบค่ะ ชอบ เพราะวัยอย่างเราคงต้องใช้ได้แล้วค่ะ  สนนราคาตัวนี้  980 บาท ค่ะ ราคาถือว่าไม่แพงนะค่ะ เพราะขวดนี้ดูค่อนข้างเยอะค่ะ น่าลองจริง

ตอนี้เราได้ใช้แค่ BHA Body กับ  Bacidal  เพราะบริเวญจุดไหนที่ทำ Co2 เค้ายังไม่ให้ทาอะไรค่ะ

                เราสรุปให้นิดนึงนะค่ะ เนื่องจากเราเป็นชอบดูแลผิวพรรณ โดยเฉพาะบริเวณหน้า เราจึงได้ลองคลินิคประเภทรักษาผิว อย่างงี้มาหลายที่แล้วค่ะ เราขอบอกว่าที่นี่เป็น ที่แรกที่เราขอแนะนำ เพราะเราชอบที่คุณหมอไม่ยัดเยียดยา หรือ เลเซอร์ เหมือนหลายๆที่ ราคาถูกแบบไม่น่าเชื่อเพราะ Location ของร้านนี้ค่อนข้างดี ค่ะ เลยคิดมาตลอดว่าน่าจะแพง แต่ไม่เลย หมอดีค่ะ(อันนี้พูดถึงคุณหมอเล็กนะค่ะเพราะไปรักษาคนนี้ค่ะ)  ให้ทำเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่เยอะแยะค่ะ แต่ข้อเสียที่นี่คือ คนไข้อาจจะเยอะ รออาจจะนานค่ะเพราะเท่าที่เห็นลูกค้าส่วนใหญ่ทำเลเซอร์ค่ะ เลยอาจจะใช้เวลาเยอะ คุณหมอทำเองเกือบทุกขึ้นตอน เองหมด

                อีกที่ที่จะแนะนำคือ คุณหมออภิลักษณ์ที่ รพ.บางมดค่ะ  ขอบอกเลยว่าคุณหมอดีมาก ค่ายาถูก ให้คำแนะนำเหมือนคุณหมอเล็กเลยค่ะว่า อันนั้น ไม่จำเป็นอันนี้ไม่จำเป็น แต่ที่นี่ไม่ได้เน้นเรื่องเลเซอร์ค่ะ เพราะเครื่องน่าจะไม่มากเท่าที่ ธนิยะค่ะ แต่คุณหมอจะเน้น รักษาทางยามากกว่าค่ะ  ข้อเสียเดียวของที่นี่คือไกลค่ะ คือ รพ.อยู่ตรงพระราม 2 ค่ะ ซึ่งจากบ้านเราไกลมากค่ะ  ถ้าคุณหมอมาเปิดคลินิกในเมืองรับรอง ไปบ่อยกว่านี้อีก

                เราเองเป็นคนนึงที่ชอบดูแลผิวหน้า สิวเม็ดเดียวก็แจ้นไป ฉีดยา หาหมอแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นเราเข้าใจดีว่าคนแบบเรามักจะควรมีคลินิกในดวงใจ เวลาเกิดอะไรขึ้นกับหน้าตาของเรา ซึ่ง จุดที่เรามักจะเอามาตัดสินใจ ว่าจะไปที่ไหนดี คือเรื่อง ความเก่งของหมอและ ราคาค่ะ  คือเราก็เป็นพนักงานบริษัทเงินเดือนไม่ได้เยอะแยะ อยากได้ของ ดีราคาสมเหตุสมผล ค่ะ เราว่า 2 ที่นี้น่าจะเหมาะค่ะ สำหรับคนที่อยากดูแลหน้าในราคาที่ดี    เราขอเปรียบเทียบนิดนึงนะค่ะ เพื่อนเราต้องการทำ CO2 เลยไปหาหมอที่คลินิกชื่อดังแห่งนึงแถว เพลินจิตค่ะ เข้าไปหาหมอ หมอก็นับจำนวนเม็ด แล้วคุยเรื่องราคาค่ะ คือจำนวนไม่ได้เยอะมากด้วยค่ะ  สรุปราคา 7000   ให้ผ่อน 3 เดือน  คือ เราว่ามันแพงไปค่ะ  สำหรับที่ธนิยะ เราว่าราคาเค้าดีค่ะ ราวๆ 1,000 – 3,000 บาท แล้วแต่จำนวน คือ เรางง มากค่ะ ว่าทำไมราคามันต่างกันนัก

                ยังไงก็ลองดูนะค่ะ อยากให้เพื่อนๆ เก็บเงินไปเที่ยวดีกว่า เอาเงินไปให้ คลินิกรักษาผิวขูดเลือดขูดเนื้ออ่ะค่ะ