คราวนี้ขอมาเล่าให้ฟังเรื่องเจ้าวิตามิน DHEA หรือ (Dehydroepiandrosterone: DHEA) นะค่ะ คือว่าเราเองรู้จักเจ้าวิตามินตัวนี้จากคุณหมอท่านนึงนะค่ะ ขอเล่ายาวนิดนึงนะค่ะ อย่างที่ทราบกันเราผ่านการทำ ICSI มาแล้ว พอจะเริ่มครั้งที่ 2 คุณหมอบอกว่า มีเนื้องอกเล็กๆประมาณ 3 ซม.อยู่ติดกับมดลูก ซึ่งไม่มีผลอะไรกับการทำ ICSI แน่นอนค่ะ แต่คุณหมอก็ยังบอกไม่ได้ค่ะ ว่าถ้าเกิดตั้งครรภ์ เจ้าเนื้องอกอันนี้มันจะโตตามเด็กหรือไม่ เราไม่รอช้าค่ะ ไปหา Second Opinion ค่ะ ซึ่งคุณหมอคนที่2 ก็พูดตรงกันค่ะ แต่เราไม่อยากรู้สึกกังวลกับเจ้าเนื้องอกนี่ บวกกับสวัสดิการที่ครอบคลุมทั้งหมด เราเลยตัดสินใจผ่าตัดค่ะ โดยเราไปผ่าตัดโรงพยาบาล BNH ค่ะ โดยเราเลือกผ่าตัดกับคุณหมอชื่อดังเรื่องการทำ IVFค่ะ เมื่อเราผ่าตัดเสร็จคุณหมอถามว่าจะทำ IVF ไม๊ เราบอกทำค่ะ คุณหมอเลยให้ยาตัวนี้มาทานค่ะ DHEA
โดย คุณหมอให้เจ้านี่มาทานค่ะ เราเองก็ทาน 1 เม็ด (50 มิลลิกรัม) หลังอาหารเช้าค่ะ คุณหมอบอกว่า ยาตัวนี้จะช่วยเรื่องปริมาณไข่ค่ะ ทำให้เมื่อฉีดฮอร์โมนกระตุ้นไข่ตอนทำ IVF จะได้ไข่เยอะขึ้นค่ะ เราเองพอได้มาเลยรอง search Googleดู ค่ะ ว่ายาตัวนี้เป็นยังไง เราขอยืมเนื้อหามาจาก web site นึงนะค่ะ
ดีไฮโดรอีพิแอนโดรสเตอโรน(Dehydroepiandrosterone: DHEA) เป็นฮอร์โมนธรรมชาติจากต่อมหมวกไต และเป็นฮอร์โมนในกลุ่มสเตียรอยด์ที่มีมากที่สุดในร่างกาย แต่จะมีปริมาณน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น (สเตียรอยด์เป็นกลุ่มสารเคมีที่มีหน้าที่หลากหลาย รวมถึงช่วยควบคุมสมดุลอารมณ์ และเพิ่มสมรรถภาพของร่างกายในการรับมือกับความเครียด)
เมื่ออายุประมาณ 45 ปี ร่างกายของเราจะสร้าง DHEA เหลือประมาณครึ่งหนึ่งของที่เคยผลิตได้เมื่อตอนอายุ 20 ปี และเมื่ออายุ 70 ปี การสร้าง DHEA จะลดลงจนแทบไม่เหลือเลย นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การลดลงของฮอร์โมน DHEA สัมพันธ์กับการถดถอยทางกายภาพ และจิตใจในวัยชรา การเพิ่มระดับ DHEA ให้กลับสู่ระดับเดียวกับในวัยหนุ่มสาว อาจช่วยป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความชราได้ คนสูงอายุที่รับประทาน DHEA จะมีความรู้สึกโดยรวมดีขึ้น มีความกระชุ่มกระชวย มีกล้ามเนื้อมากขึ้น และมีฮอร์โมนเพศเพิ่มขึ้น
พบว่า DHEA ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ลดการสร้างของไขมัน ซึ่งก่อให้เกิดโรคอ้วน ช่วยป้องกันโรคหัวใจในหญิงวัยหมดประจำเดือน ลดความอ่อนเพลีย ช่วยให้คิดอ่านได้เร็วขึ้น ปรับอารมณ์ให้ดี และรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น
งานวิจัยใหม่พบว่า DHEA อาจเป็นการรักษาทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับภาวะกระดูกพรุน และโรคซึมเศร้า เช่นเดียวกับการลดอาการของโรคเอสแอลอี(SLD) ซึ่งเป็น โรคภูมิแพ้ตัวเอง ที่ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ในปัจจุบัน (ผู้ที่เป็นโรคนี้ ควรอย่างยิ่งที่จะปรึกษาแพทย์ของคุณ ถึงการลองทาน DHEA)
(หากคุณมีอายุมากกว่า 40 ปี ควรวัดระดับ DHEA กับแพทย์ก่อน)
ปริมาณที่รับประทานทั่วไป คือ เม็ดขนาด 25 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ดสำหรับผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป และเม็ดขนาด 50 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด สำหรับผู้ชายอายุ 40 ปี ขึ้นไป
ข้อดีสำหรับผู้หญิงในการรับประทาน DHEA (หรือทาน DHEA ร่วมกับ เพรกนีโนโลน) แทนการใช้ฮอร์โมนเพศหญิงคือ มันไม่มีผลกระทบต่อเยื่อบุโพรงมดลูก แม้ในปริมาณที่มากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุช่องคลอด และการรับประทานเพียง DHEA อย่างเดียว ทำให้ไม่ต้องกังวลกับการปรับการรับประทานเอสโทรเจน และโพรเจสเทอโรน ให้สมดุลกัน
ข้อควรระวัง : DHEA เป็นฮอร์โมน และตามทฤษฏีแล้ว สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของมะเร็งที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนได้ หากคุณมีประวัติมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือมะเร็งเต้านม ไม่แนะนำให้ใช้ DHEA และหญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีหน้าท้องใหญ่ จะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมมากกว่าปกติ จึงไม่แนะนำให้รับประทาน DHEA เสริมเช่นกัน นอกเสียจากว่า ผลเลือดแสดงว่ามีภาวะขาดฮอร์โมน
(DHEA เป็นฮอร์โมนที่ FDA ของอเมริกา จัดอยู่ในกลุ่มของอาหารเสริม เพราะมีความปลอดภัยสูง DHEA เป็นที่นิยมและขายดีมากในต่างประเทศ และในสหรัฐอเมริกาสามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์)
(DHEA เป็นฮอร์โมนที่ FDA ของอเมริกา จัดอยู่ในกลุ่มของอาหารเสริม เพราะมีความปลอดภัยสูง DHEA เป็นที่นิยมและขายดีมากในต่างประเทศ และในสหรัฐอเมริกาสามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์)
เราขอเล่าถึงประสบการณ์ที่เรารับประทานยาตัวนี้นะค่ะ คือเราเริ่มทาน ไปประมาณ 15 วัน หน้าเราที่ไม่เคยเป็นสิวมา เกือบ 10 ปีแล้ว ก็มาเป็นค่ะ และเป็นหนองใหญ่มากค่ะ ใหญ่จนน่ากลัวเลยค่ะ จนหน้าเราเหมือนเป็นผื่นแพ้ หนองอย่างใหญ่เลยค่ะ ในตอนนั้นได้คุยกับเพื่อนที่ ทำ IVF ที่ศิริราช ค่ะ เพื่อนก็ทานยาตัวนี้เหมือนกันค่ะ เพราะหมอที่ให้ทานบอกว่าได้ทดลองแล้วได้ผลจริงค่ะ โดยเราทานยาตัวนี้ไป 3 เดือนค่ะ ก็อดทนอดกลั้น กับไอ้เจ้าสิวหนอง มาตลอดค่ะ
เดือนที่ 4 เราเริ่มปรึกษา คุณหมอทรงเกียรติ ที่นวบุตร เพื่อทำ ICSI รอบที่ 2 ค่ะ จึงเล่าให้คุณหมอฟังค่ะ คุณหมอบอกว่ายาตัวนี้ยังไม่ได้มีการยืนยันทางการแพทย์ว่าช่วยให้ปริมาณไข่จะมากขึ้นแต่อย่างใดค่ะ ส่วนสิวที่เกิดขึ้นเพราะปริมาณฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น แต่คุณหมอก็พูดติดตลกค่ะ ว่าลองทานดูไปเรื่อยๆก็ได้นะ เผื่อจะได้ทำการศึกษาไปด้วยว่ายาตัวนี้เห็นผลจริงหรือไม่ คุณหมอบอกว่าทานอาหารที่มีประโยชน์ (ผัก ผลไม้) จะดีกว่า ส่วนเราเองนั้น
พอคุณหมอพูดอย่างงั้นก็ สองจิตสองใจค่ะว่าจะทานต่อดีหรือไม่เพราะสิวที่ขึ้นเยอะจนน่ากลัวค่ะหลังจากคุยกับคุณหมอเสร็จก็รับยาฉีดกระตุ้นไข่ไปฉีดค่ะ ผลที่ออกมาคือ ฉีดได้แค่ 3 วัน คุณหมออัลตร้าซาวน์ดูไข่และขอยกเลิกรอบนั้นค่ะ เพราะคุณหมอ บอกว่าไข่มีแค่ 3 ใบและขนาดไม่เท่ากันเลยค่ะ ใหญ่มากกับเล็กมาก ฉีดต่อไปคุณหมอบอกว่าไม่คุ้มค่ะ เราเลยแห้วไปตามระเบียบค่ะ เราเลยได้คำตอบค่ะ ว่าเจ้ายาตัวนี้ไม่ได้ช่วยเลย แถมเราต้องเสียตังค์ค่ารักษาสิวไปหลายหมื่นค่ะ หลังจากนั้นเราเลยไป search ใน web site ต่างประเทศเกี่ยวกับวิตามินตัวนี้ เค้าก็ว่ามันทำให้เป็นสิวเหมือนกันค่ะ
เราเองไม่ขอสรุปนะค่ะว่า ทานยาตัวนี้ดีหรือไม่ดีอย่างไร ยังไงใครอยากลองก็ลองดูนะค่ะ แต่ขอแนะนำว่าให้ทาน 25 มิลลิกรัม หลังอาหารเช้าและ 25 มิลลิกรัม หลังอาหารเย็นนะค่ะ เพราะ นี้คือการทานยาของคุณหมอที่ศิริราช นะค่ะ (เพื่อนแนะนำมาค่ะ) ส่วนเราตอนนี้เราหันมาออกกำลังกายค่ะ และ ทุกวันเราจะทานไข่อย่างน้อย 1 ฟองค่ะ พยายามนอนพักผ่อนให้เพียงพอ หวังว่าจะช่วยได้เน้อ สู้ๆค่ะ
ซื้อได้ที่ไหนคะ
ReplyDeleteเราซื้อในเน็ตนี่หละค่ะ พอดีเราได้ยามาจากหมอมีชื่อเสียงด้านการทำเด็กหลอดแก้วท่านนึง คือแกเอากระดาษมาปิดขวดไว้นะค่ะ เราถึงบ้านก็แกะออก เลยเห็นโลโก้ยี่ห้อ เราเลย search ใน google มีขายเยอะเลยค่ะ คนไทยนำเข้ามาขายนะค่ะ ยี่ห้อนี้เลยค่ะ แต่ปริมาณยาต่อเม็ด จะน้อยกว่านะค่ะ ยังไงถ้ากินต้องระวังด้วยนะค่ะ เพราะสำหรับเรา เรากินไปซักพักสิวขึ้นแบบน่ากลัวมากนะค่ะ กว่าจะรักษาสิวหายเล่นเอาเหนื่อยเลยค่ะ
Delete