รีวิว Review Fitbit Charge HR แกะกล่องค่ะ

          ก่อนที่จะมาพูดถึงเรื่องเจ้า Fitbit Charge HR เราขอเกริ่นว่าทำไมเราถึงมาเริ่มซื้อเจ้านี่ก่อนแล้วกันนะค่ะ ก่อนอื่น คนที่อ่าน Blog เราน่าจะรู้หละว่าเราเป็นคนนึงที่มีภาวะมีบุตรยากส่วนนึง เราว่าอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้มีลูกยากคือการออกกำลังกายค่ะ เราขาดการอออกกำลังกายมากๆ รวมทั้งช่วงหลังผลของการทำ ICSI คือความอ้วนค่ะ คนที่เป็นคนอ้วนง่ายรับรองทำ ICSI อ้วนขึ้นแน่นอนรวมทั้งลดยากมากค่ะ แม้จะอดอาหารบวกกับอายุที่มากขึ้นการเผาผลาญก็เลยน้อยลงค่ะ  เรามี Plan ว่าเดือนสิงหาคมนี้จะทำ ICSI กับทางคุณหมอทรงเกียรติ ที่ นวบุตรอีกครั้ง(ครั้งสุดท้ายแล้วค่ะ) ไม่ได้ก็พอหละ  ด้วยความอึดอัดเราเลยเริ่มคิดออกกำลังกายค่ะ หากีฬาที่เราสามารถจะออกได้บ่อยๆ เผอิญวันนึงค่ะ นัดเพื่อนตีแบดมินตันค่ะ  แต่อีคุณเพื่อนแสนดีเบี้ยวค่ะ เพราะชีติดงานด่วน ด้วยเพราะเราเตรียมตัวแต่งตัวเตรียมออกกำลังกายแล้ว เราเลยต้องมาคิดว่าทำอะไรดีหละ เลยมาจบที่การลองไปวิ่งดูค่ะ เราไปวิ่งที่ Polo Club ตรงถนนวิทยุค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่วิ่ง Out door ค่ะ บวกกับอากาศเย็นๆลมพัดเบาๆและพื้นวิ่งที่ดีมากค่ะ เราเลยติดใจหลังจากนั้นก็เริ่มมาวิ่งที่นี่ค่ะ  เราเริ่มจากการใช้ App ในมือถือที่จับเวลาและระยะทางค่ะ ซึ่งก็รู้สึกดีมากค่ะเพราะ App จะบอกทุกๆ 1 เมตรว่า ขณะนี้วิ่งได้กี่กิโลเมตรแล้ว  ซึ่งก็เยี่ยมมากค่ะ กับการที่ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์อะไรเพิ่มค่ะ หลังจากนั้น เราก็โดนปรามาศจาก สามีค่ะ ว่าจริงๆเราไม่ได้วิ่งนะเราน่ะเดิน หัวใจยูน่ะ ไม่ได้อยู่ใน Zone ที่จะลดน้ำหนักได้ ok ค่ะมาพิสูจน์กัน หลังจากนั้นก็โดนบิ๊ว จากเพื่อนๆคุณสามีนั่นหละค่ะ ให้ลองไป Check Fitbit ดูเพราะมันสามารถตรวจจับอะไรหลายๆอย่างได้ค่ะ เราและคุณสามีเลยเริ่มศึกษาค่ะ และไม่นานก็ซื้อกัน เพราะที่ร้านมีผ่อน 10 เดือนค่ะ ว้าว !!! ไม่น่าเชื่อ ของ 5,590 บาทจะมีผ่อน 10 เดือนจัดไปค่ะ 2 ตัว

ในช่วงศึกษาข้อมูลเราเลือกไม่ถูกค่ะ ระหว่าง  Fitbit Charge HR  กับ Fitbit Surge ค่ะ เพราะ Fitbit Surge นั้น แทบจะเหมือน Smart Watch เลยค่ะคือสามารถรับ Notification อื่นๆได้ รวมทั้งมี GPS ในตัวด้วยค่ะ แต่เหตุผลที่เราเลือก HR เหตุผลเดียวเลยค่ะ เรายังคงต้องการใส่นาฬิกาที่มือซ้ายและใส่ Fitbit HR ที่มือขวาค่ะ มันคงตลกถ้าเราใส่ Surge มือขวามันจะเหมือนเราใส่นาฬิกาใหญ่ๆ 2 เรือนบนมือทั้งซ้ายและขวา

        เจ้า Fitbit Charge HR นี้ จะมี 2 Size ค่ะ  Small / Large คือตอนที่เราลองเราว่าเราต้อง L ค่ะ แต่คนขายบอกว่า S ไปเถอะครับเดี๋ยวมันจะยืดอีก คือ เราเนี่ยใส่ไปรูที่ 3 ก่อนสุดท้ายเลยนะค่ะ 

   

      

         

          มาดูวัสดุนะค่ะ วัสดุส่วนสายทำมาจากยางค่ะ ออกจากหนืดนิดๆ แต่ใส่สบายค่ะ เราเป็นคนที่ไม่ชอบใส่นาฬิกานอนอย่างมากแต่ไม่น่าเชื่อ เจ้านี่เราใส่แล้วหลับสนิทเลยค่ะ ในส่วนตรงจอเล็กๆที่ไว้ดูกิจกรรมต่างๆ ก็เป็นพลาสติกธรรมดานั่นหละค่ะ  ไม่น่าเชื่อเลย เราใส่มา 2 อาทิตย์ หน้าจอมุมซ้ายมีรอยแล้วค่ะ งงมาก แต่เอาเถอะเราใส่เพื่อสุขภาพเน้อไม่ได้สวยงาม 

        เราใส่เข้า Fitbit นี่มือขวาค่ะ  ปกติที่มือขวาเราจะใส่สร้อยข้อมืออยู่แล้ว  ใส่แบบต้องใส่ทุกวัน วันไหนไม่ใส่รู้สึกแปลกๆ เราเลยเอาใส่กับเจ้า Fitbit ค่ะ ก็ดูดีนะค่ะใช้ได้ ตอบโจทย์มากค่ะ

        ในส่วนสายตรงรูที่ใส่สายจะมีตัว Lock อยู่ด้านใน เจ้านี่ดีค่ะทำให้สายโดน Lock ไม่กระเด้งออกมาค่ะ แต่ข้อเสียของสายยางนี้ค่ะ มันติดขนง่ายมากค่ะ  พอดีเราเลี้ยงแมวนะค่ะ ขนมาติดง่ายมากค่ะ แต่นะ ติดก็เอาไปล้างน้ำก็ออกค่ะ 

           อ่อเราลืมบอกไปว่าเจ้านี่สามารถล้างน้ำได้นะค่ะ แต่เอาลงไปว่ายน้ำไม่ได้นะค่ะ ใน เว็บ เค้าแนะนำให้ล้างด้วย Cetaphil นะค่ะ พอดีเราใช้อยู่แล้วนะค่ะ เลยเข้าทางเลย อ่อ! อีกอย่างนะค่ะ ทุกๆ3-4 วันเค้าแนะนำให้ใช้แอลกอฮอร์เช็ดสายด้านในนิดนึงนะค่ะ เพื่ความสะอาดอย่างแท้จริง 

            ด้านหลังของเจ้า Fitbit จุดที่สัมผัสกับผิวเรานะค่ะ จะมีตัวเซนเซอร์มันจะกระพริบตลอดค้าเป็นแสงสีเขียวค่ะ เวลากลางคืน จะเห็นชัดเลยค่ะ  เวลาที่ชาร์จแบตเตอรี่ เจ้าแสงนี้จะหายไปค่ะ 

                   มาดูที่ชาร์จของเจ้า Fitbit กันค่ะ ขอเตือนนิดนึงนะค่ะ เจ้าสายชาร์จอันนี้ไม่เหมือนชาวบ้านนะค่ะ หายคือไม่มีให้ซื้อนะค่ะ เก็บให้ดีนะค่ะ Fitbit  รุ่นเก่าก็ไม่เหมือนกันด้วยนะค่ะ อ่อเค้าไม่ได้ให้ตัวปลั๊กชารจ์ไฟบ้านมานะค่ะ เราต้องหามาต่อกับสายเองนะค่ะเพราะอีกหัวนึงคือ หัวที่เราชาร์จกับคอมพิวเตอร์นะค่ะ เวลาชาร์จนะค่ะ แนะนำให้ดูดีๆนะค่ะเพราะเราเป็นหลายรอบหละเพราะตัวหัวมันไม่ค่อยแน่นนะค่ะ ชาร์จแล้วมันหลวมไม่ลงตรงเต้าเสียบนะค่ะ เวลาชาร์จลองสังเกตนะค่ะว่าไฟสีเขียวดับไม๊ ถ้าดับแปลว่ามันกำลังพลังชาร์จค่ะ เข้าจุดที่ชาร์จ อยู่ใก้ลๆ เจ้าไฟสีเขียวนี้เลยค่ะ   

              ส่วนที่ตัวเครื่องมือถือนั้นเราต้องลง App Fitbit ค่ะ ใช้ได้ทั้ง Android และ Iphone  นะค่ะ การเชื่อมต่อไม่ยากค่ะ แค่ทำตาม Step ที่เค้าบอกเป็นขั้นๆค่ะพอลงเสร็จจะมีหน้าที่เป็นกิจกรรมต่างๆค่ะ เช่นออกกำลังกายน้ำหนัก Heart Rate ก้าวที่เดินจำนวนกี่ก้าว ระยะที่เดินเป็นกี่กิโล กินอะไรวันนี้ น้ำหนักวันนี้(อันนี้เราต้องกรอกเองทุกเช้านะค่ะ) เมื่อคืนนอนไปกี่ชม. (คนที่เป็นผู้ใหญ่ควรจะนอน 7-9 ชม./วันค่ะ) น้ำดื่มไปเท่าไหร่  แต่พอเที่ยงคืนของทุกวันมันก็จะ Reset วันใหม่นะค่ะ 

         ลืมบอกไปค่ะเจ้าตัวนี้ ถ้าเราเปิด Bluetooth เชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์กับ Fitbit เมื่อมีสายโทรเข้า เจ้าตัวนี้จะแจ้งเตือนโดยการสั่นค่ะ และมีชื่อผู้ที่โทรเข้าขึ้นค่ะ แต่จะขึ้นเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ เราได้ใช้ค่ะเพราะพอดีเราsave ชื่อเป็นภาษาอังกฤษหมดค่ะ ไม่อยากจะบอกว่าเจ้า Fitbit เราสั่นบอกก่อนที่เจ้าโทรศัพท์จะเตือนอีกค่ะ Amazing มากค่ะ แต่ก็นะค่ะถ้าเปิด Bluetooth แบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วกว่าปกติค่ะ 

            ในส่วนApp ในโทรศัพท์ หน้าที่เราชอบคือ Friendค่ะ คือพอเราเข้าหน้า Friend มันจะถามให้เรา invite เพื่อนจาก Facebook ที่มี Fitbit เหมือนกันนะค่ะ  พอ add เพื่อนเสร็จเราก็จะได้เห็นทุกวันค่ะ ว่าเพื่อนเราออกกำลังกาย (เดินไปมากน้อยเท่าไหร่ต่อวัน) อ่อทั้งนั้นทั้งนี้เพื่อนคนนั้นต้อง Accept รับเราเป็นเพื่อนด้วยนะค่ะ 

         Option ของเจ้า Fitbit ตัวนี้ยังอีกเยอะนะค่ะ เราเลือกมาเฉพาะที่เราใช้นะค่ะ เพราะเขียนทั้งหมดคงยาวมากค่ะ ตอนนี้เรากำลังอยากได้ Apple Watch ค่ะ เพราะอยากได้ไอ้แบบที่โทรเข้ามาแล้วโชว์ที่นาฬิกาและคุยได้ เห็นว่าวันนี้เปิดขายในไทยวันแรก คนมารอคิวซื้อยาวเลย 

             ทั้งนั้นทั้งนี้เจ้าเครื่องนี้เป็นส่วนนึงค่ะที่ผลักดันเราให้ออกกกำลังกายเพราะเราจะเห็นผลงานของตัวเองทุกวัน สนุกค่ะ บอกเลยแข่งกับเพื่อนไปด้วย ยังไงก็ลองซื้อมาเล่นกันดูนะค่ะ ราคาไม่ได้ร้ายแรงมากค่ะ เอามาวัดความฟิตของเรากัน